โรคลำไส้แปรปรวน เป็นโรคที่พบได้ในผู้ใหญ่มากกว่าวัยหนุ่มสาว เกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ ทั้งนี้ อยากให้คุณลองสำรวจตัวเองว่ามีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นโรคลำไส้แปรปรวน
1. ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมหรือก๊าซในท้องมากแทบจะตลอดเวลา รู้สึกไม่สบายตัว
2. มีอาการปวดท้อง ซึ่งหากได้ขับถ่ายก็จะรู้สึกดีขึ้น แต่ภายหลังก็จะกลับมาปวดท้องได้อีก
3. มีอาการท้องผูก หรือ ท้องเสียหลังรับประทานอาหาร เรียกได้ว่ากินเข้าไปเสร็จก็ต้องรีบวิ่งหาห้องน้ำ อุจาระบางครั้งอาจจะมีมูกปน แต่ไม่มีเลือด อาการจะเป็นๆหายๆ บางครั้งก็ท้องผูกสลับกับท้องเสีย
4. มีอาการคล้ายถ่ายอุจจาระไม่สุด คือถ่ายไม่ออกแล้วแต่ยังปวดท้องอยู่บ้าง ซึ่งจะเป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งแล้วหายไป
5. มีอาการกลั้นอุจจาระไม่อยู่ ต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที ยิ่งในท้องมีลมหรือก๊าซมาก ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ต้องรีบไปขับถ่าย ยากต่อการกลั่น
โรคสำไส้แปรปรวนเป็นโรคที่มีแต่อาการ เมื่อไปพบแพทย์ จะตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ดังนั้น แพทย์จะใช้วิธีตรวจวินิจฉัยโรคอื่นๆของระบบทางเดินอาการให้ก่อน หากไม่พบโรคใดๆเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร จึงสรุปว่าเป็น โรคสำไส้แปรปรวน
สำหรับสาเหตุของการเป็นโรคลำไส้แปรปรวน อาจจะมีหลายสมมุติฐาน เกี่ยวกับการทำงานของระบบในร่างกาย แต่ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและให้น้ำหนักมากที่สุดคือเรื่องของ ความเครียด ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าความเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคลำไส้แปรปรวน เมื่อสมองได้รับการกระตุ้น จากภาวะอารมณ์และจิตใจ จะหลังสาร ซีโรโทนิน (Serotonin) กระตุ้นการบีบตัวของลำใส้ ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องและท้องเสีย และการรับประทานอาหารบางชนิด ก็จะยิ่งกระตุ้นอาการให้รุนแรงขึ้น เช่น เครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน แอลกอฮอล์ เป็นต้น
ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากทราบแล้วว่า โรคลำไส้แปรปรวน จะรักษาอย่างไร และจะหายขาดได้หรือไม่ ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจโรคและสาเหตุ ซึ่งโดยหลักแล้วมาจากปัจจัยภายนอกที่กระทบจิตใจ โรคนี้จึงเสมือนเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่อาจรักษาให้หายขาด มีโอากาสกลับมาเป็นได้อีก หากเราไม่รู้จักดูแลตัวเอง ทั้งการเลือกรับประทานอาหาร และการควบคุมภาวะจิตใจไม่ให้เกิดความเครียด ในส่วนของยารักษาโรค แพทย์จะจ่ายยาตามอาการของผู้ป่วย เช่น ยาแก้ท้องเสีย ท้องผูก แน่นท้อง หรือยาลดอาการบีบตัวของลำไส้ เป็นต้น
แม้ว่าโรคลำไส้แปรปรวน จะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง ไม่ทำให้เสียชีวิต ไม่มีผลข้างเคียงแทรกซ้อน และไม่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งลำใส้ แต่เนื่องจากโรคลำไส้แปรปรวนเป็นโรคเรื้อรัง เกี่ยวข้องกับการขับถ่าย จึงส่งผลกับคุณภาพชีวิต ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวก
ไม่ว่าคุณจะเป็นโรคลำไส้แปรปรวนหรือยังไม่เป็น หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ขอให้ปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันและรักษา เริ่มต้นจากการกำจัดความเครียด ปล่อยวางหรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อยง่าย เพียงเท่านี้คุณก็จะกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีห่างไกลโรคได้
เมื่อถึงวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากการใส่ใจในเรื่องของโภชนาก
การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพราะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแร
ผู้สูงอายุหลายท่าน มักตรวจพบว่าตนเองมีโรคประจำตัว และมีอาการของโรคเกิดขึ้นอยู่บ่อย
ความดันของคนเราปกติจะอยู่ที่120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งการที่ความดันโลหิตสูงมักเกิดจากสภาวะอารมณ์ หรือกิจกร
การดำเนินชีวิตในแต่ละช่วงวัยของคนเรานั้น ย่อมมีหลักในการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้สามาร
ถ้าพูดถึงการตรวจโรค การตรวจปัสสาวะ เป็นวิธีการตรวจโรคที่มีประโยชน์มา