เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสูงวัย นอกจากสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ อ่อนแอลงไปมากแล้ว ยังมีเรื่องของสุขภาพจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำงานสัมพันธ์กันและส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก หากอยากฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจควบคู่กันไป ก็สามารถทำได้เป็นประจำ โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายทำให้มีสุขภาพดี กล้ามเนื้อแข็งแรงช่วยควบคุมน้ำหนักตัว และทรวดทรงป้องกันโรคที่เกิดจาความเสื่อม เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง โรคข้อเสื่อม ยิ่งไปกว่านั้น การออกกำลังกายยังช่วยให้ลด ความเครียด และสมรรถภาพทางเพศดีขึ้นอีกด้วย การปฏิบัติมีหลายวิธี ได้แก่กายบริการ การฝึกแรง กล้าม เนื้อ การฝึกความอดทนทั่วไป การเล่นกีฬา และการใช้แรงกายในชีวิตประจำวัน หรืองานอดิเรก ควรปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอวันละ 5-30 นาที
การกินอาหาร
การกินอาหารในผู้สูงอายุ ต้องใส่ใจอย่างครบถ้วนในทุกด้านดังนี้
- สารอาหารที่ควรเสริม และได้รับในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
- ความอ่อนนุ่มของอาหาร และผลกระทบต่อการเคี้ยว การย่อย และการขับถ่าย
- อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
อากาศและสภาวะแวดล้อม
ผู้สูงอายุจำเป็นต้องอยู่ในที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าอยู่ในเมืองก็ควรมีระบบถ่ายเทอากาศดี หรือหาโอกาสไปพักผ่อนชนบท ชายทะเลหรือบนเขาบ้าง
งานอดิเรก
ผู้สูงอายุควรมีกิจกรรมการงานเล็กๆ น้อยๆ ไม่ควรปล่อยให้ว่างมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นงานที่มีรายได้หรืองานที่สร้างความเพลิดเพลิน เช่น การพบปะสังสรรค์ ร่วมกิจกรรมของชมรมต่างๆ การทำกิจกรรมที่ชอบ ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นยังมีประโยชน์ต่อสังคม เป็นต้น
ลูกหลานหรือผู้ดูแล ควรจัดให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมทั้ง 4 อย่างนี้อย่างเหมาะสม รวมถึงให้การดูแล ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี
การหกล้ม เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้จะไม่อันตรายถึงชี
เรามักสังเกตเห็นว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุมากๆ มักมีกระบริเวณใบหน้า และผิวส่วนต่างๆ
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มักมีโรคภัยต่างๆ ถามหาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำ
จะป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้อย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ
แม้ว่าผู้สูงอายุในครอบครัวของคุณจะผ่านช่วงวัยหนุ่มสาวมาอย่างไร หรือแข็งแรงมากแค่