ร่างกายของผู้หญิงเรา เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงอายุ 47-50 ปี ก็จะเรียกว่าช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน และวัยหมดประจำเดือน
ในระยะแรกของวัยใกล้หมดประจำเดือน รังไข่จะเริ่มทำงานผิดปกติไป ทำให้ประจำเดือนมาห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดประจำเดือนไปในที่สุด โดยส่วนมากใช้เวลาในช่วงนี้ประมาณ 2-8 ปี
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความปกติของร่างกายผู้หญิงเรา ซึ่งไม่เพียงแต่ประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอ ห่างออกไปในทุกเดือนแล้ว ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และสุขภาพจิตได้ ในขณะที่ในบางรายก็ดูไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งมีเรื่องของกรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม และการดูแลตนเองมาเกี่ยวข้อง
อาการในช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน มักมีอาการต่างๆ คือ
- เกิดอาการร้อนวูบวาบตามตัว ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น กำลังกล้ามเนื้อลดลง ปวดตามข้อ
- ช่องคลอดอักเสบ คันช่องคลอด ช่องคลอดแห้ง ทำให้เจ็บเวลามีการร่วมเพศ ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์ ได้แก่ หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เครียด กังวล เหนื่อย เพลีย หมดความต้องการทางเพศ เป็นต้น
ซึ่งหากหมดประจำเดือนไปแล้ว อาการเหล่านี้จะหมดไป แต่ก็ทำให้กระดูกพรุนง่าย และเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และไขมันในเลือดสูงได้มากขึ้น
การดูแลตนเอง เป็นทางออกเดียวที่จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจึงควรควบคุมอาหาร ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่ และทานอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยให้อ้วน อีกทั้งยังควรออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปี
หากว่ามีอาการเจ็บป่วย หรืออาการไม่ดีต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ เพราะในบางรายอาจจำเป็นต้องให้ฮอร์โมนทดแทน เพื่อรักษา ซึ่งก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน และวัยหมดประจำเดือน เป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราทุกคนควรเรียนรู้ และเตรียมพร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งคงไม่มีการเตรียมรับมือใดดีที่สุด เท่ากับการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ผ่านวัยนี้ไปอย่างมีความสุขได้
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ หรือมีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป โดยเ
ในวัยสูงอายุ ผ่านประสบการณ์มามาก ย่อมต้องกลัวที่ลูกหลานจะเกิดซ้ำรอยความผิดพลาดของ
ผู้สูงอายุทั้งหลาย ถ้าท่านไม่อยากแก่เกินวัย และยังดูสดใส ไม่แพ้วัยหนุ่มสาวแล้วล่ะก็ ว
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุ คุณอาจมีความกังวลหลายอย่างเกิดขึ้นในจิตใจ เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงหลาย
ผู้ป่วยโรคหัวใจ มักได้รับการแนะนำว่าไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเ
ผู้สูงอายุหลายท่าน หรือวัยกลางคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงสูงอายุ