ผิวแก่แดด ... ปัญหาผิวของผู้สูงวัย



ผิวแก่แดดหรือ Photo Aging หมายถึงปัญหาผิวของผู้สูงอายุที่ถูกแดดมาเป็นเวลานาน เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจที่เข้าทำร้ายผิวหนังให้ดูคล้ำเสียและเหี่ยวย่นก่อนวัย รังสีอัลตร้าไวโอเล็ตจากแสงแดดนั้นสามารถเข้าทำลายชั้นคอลลาเจนเป็นผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น จนเกิดอาการแห้งแตก และไม่เต่งตึงเหมือนแต่ก่อน เมื่อคุณยังอายุน้อย การฟื้นฟูของกระบวนการปรับสภาพผิวนั้นยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อคุณอายุมากขึ้น กระบวนการในการซ่อมแซมผิวจะทำงานช้าลงเริ่มต้นตั้งแต่อายุได้เพียง 25 ปีเท่านั้นเอง

ปัญหาผิวในผู้สูงอายุ
ผิวแก่แดดจะมีลักษณะบางและเหี่ยวย่นเนื่องจากขาดความชุ่มชื่นในชั้นผิว รวมไปถึงปริมาณคอลลาเจนและน้ำมันธรรมชาติที่มีลดลงตามวัยที่มากขึ้น รวมไปถึงการถูกแสงแดดเป็นเวลานาน จึงมีผลให้ผิวแห้งแตก และคันในเวลาเดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้ผู้สูงอายุอาจมีใฝและฝ้าขึ้นตามบริเวณใบหน้า คอ และแขน ทั้งยังมีโอกาสประสบกับปัญหาผิวตกกระที่มักจะเริ่มพบเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่ออายุได้ 40 ปี โดยเริ่มจุดสีน้ำตาลกลมขนาดเล็ก และค่อยๆ ทยอยเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ กระแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทแตกต่างกันออกไป ดังนี้

-  กระตื้น (Solar Lentigo) จุดสีน้ำตาลที่ไม่มีขอบชัดเจน จะพบมากบริเวณโหนกแก้ม และแขนด้านนอกที่โดนแสงแดด
-  กระลึก (Hori’s Macules) มีลักษณะเป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาลที่มักพบตามโหนกแก้ม และมีโอกาสหายได้ยากและสามารถเป็นซ้ำได้
-  กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) มีลักษณะเป็นตุ่มเนื้อสีน้ำตาลนูนขึ้นจากผิวหนัง

ถึงแม้กระเนื้อบนผิวหนังอาจจะไม่มีอันตรายแต่อย่างใด คุณควรเช็คดูให้แน่ใจว่ากระเหล่านี้ไม่ใช่มะเร็งผิวหนัง เมื่อพบว่าสภาพกระเนื้อมีความผิดปกติ เช่น มีสีที่แปลกออกไป คุณควรพบแพทย์เพื่อการตรวจสอบเบื้องต้นโดยด่วน

การป้องกันและดูแลผิวแก่แดด
แน่นอนว่าการหลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะช่วงเวลาแดดจ้าที่มีรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตแรงที่สุดในช่วง 10.00-16.00 น. นั้นถือเป็นการป้องกันและดูแลผิวที่ดีที่สุด นอกจากนี้คุณยังควรเสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิวหนังตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อให้ผิวหนังแข็งแรงและพร้อมรับปัญหาผิวหนังเมื่ออายุมากขึ้น

-  ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง โดยเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 พร้อมด้วย PA++ ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต และควรทาครีมกันแดดอย่างน้อย 30 นาทีก่อนออกจากบ้าน และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงหากมีเหงื่อเยอะหรือผิวหนังเปียกน้ำ
-  หมั่นดูแลผิวให้ชุ่มชื่น โดยการทาครีมบำรุงไม่ว่าจะเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มที่ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว เพื่อป้องกันอาการผิวแห้ง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง หรือปัญหาผิวหนังอื่นๆ ได้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
-  รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว เช่น ผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียวอย่าง คะน้า และบร็อคโคลี ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ผักสีแดง เช่น มะเขือเทศที่อุดมด้วยไลโคปีน หรือผักสีส้น เช่น แครอท ที่อุดมด้วยเบต้า-แคโรทีนช่วยบำรุงให้เซลล์ผิวแข็งแรง
-  หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือสภาวะที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหนัง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มชากาแฟในปริมาณมาก การอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน การอาบน้ำร้อนจัด เป็นต้น
-  หากพบอาการผิดปกติบนผิวหนัง เช่น ตุ่มเนื้องอก เม็ดสีที่ดูผิดปกติ คุณควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการเบื้องต้นให้เร็วที่สุด

ร่วมนำเสนอบทความโดย

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม้เท้า เพื่อนรักนักพยุงของผู้สูงอายุ

หากจะให้นึกภาพผู้สูงอายุสักคน เรามักนึกถึงคุณตา หรือคุณยาย ที่ผมสีขาวหรือสีดอ

ผิวแก่แดด ... ปัญหาผิวของผู้สูงวัย

ผิวแก่แดดหรือ Photo Aging หมายถึงปัญหาผิวของผู้สูงอายุที่ถูกแดดมาเป็นเวลานาน เพราะแสงแดดเ

การดูแลสุขอนามัยในการขับถ่ายสำหรับผู้สูงอายุ

การดูแลผู้สูงอายุ มีหลายด้านที่ควรให้ความสำคัญ ทั้งเรื่องโภชนาการ เรื่องสภาพแวดล้อม ความสะอาด โรคภัยต่

สิทธิไม่ควรพลาดสำหรับบรรดาผู้สูงวัย

การเป็นผู้สูงอายุ จะได้รับสิทธิมากมาย เช่น สิทธิได้รับการบริการทางการแพทย์ สิทธิได้รับบริการด้านการปร

ผ่อนคลายแบบไทยๆ กับการนวดแผนไทย

การนวดไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งขอ

เครื่องส่งสัญญาณฉุกเฉิน เพื่อผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุ เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยต่างๆ ตามมา หรือมีอาการเจ็บป่วย รู้สึกไม่ดีอยู่บ่อยครั้