โรคเบาหวาน เป็นอีกหนึ่งโรค ที่มักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และการทานอาหารตามใจปาก โดยที่ไม่ควบคุมอาหารที่มีความมัน และน้ำตาลสูง
เมื่อถึงวัยสูงอายุ หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน คุณจึงควรไปตรวจหาโรคเบาหวาน และโรคต่างๆ ซึ่งเกณฑ์ในการวินิจฉัยเบาหวานของแพทย์ มีดังนี้
1. การวัดระดับกลูโคสในพลาสมาหลังการอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ซึ่งจะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126มก.% จากการตรวจทั้งสองครั้ง
2. การวัดความทนทานน้ำตาลกลูโคสกรณีที่สงสัยว่าจะเป็นเบาหวาน แต่ระดับพลาสม่ากลูโคสก่อนรับประทานอาหารไม่ถึง 126 มก.% ให้ตรวจโดยการดื่มน้ำตาลกลูโคส 75 กรัม เจาะเลือดก่อนดื่ม และ 2 ชั่วโมงหลังดื่ม และจะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานเมื่อระดับพลาสมากลูโคสที่ 2 ชั่วโมงมากกว่า 200 มก.%ขึ้นไป หากอยู่ระหว่า 140-199มก.%ถือว่าความทนทานต่อน้ำตาลบกพร่อง หากต่ำกว่า 140 มก%ถือว่าปกติ
3. การสุ่มวัดระดับกลูโคสในพลาสมาโดยไม่กำหนดเวลาอดอาหาร ใช้ค่ามากกว่า 200 มก.%และมีอาการของโรคเบาหวาน เนื่องจากมีความแม่นยำต่ำจึงไม่นิยมหาก หากพบว่าค่ามากกว่า 200 มก.%จะต้องนัดมาเจาะน้ำตาลก่อนอาหาร หรือทำการตรวจ การวัดความทนทานน้ำตาลกลูโคส อาจจะตรวจในผู้ป่วยที่มีอาการของโรคเบาหวานมากจำเป็นต้องรีบให้การรักษา
4. การใช้ระดับโปรตีนกลัยโคไซเลต หากมีค่ามากกว่า 6.5 ให้วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน
5. ในกรณีที่ค่า HbA1c>6.5 สองครั้งแต่ค่าน้ำตาลก่อนอาหารFBS<126 mg% หรือค่าน้ำตาล FBS>126 แต่ค่า HbA1c<6.5 ทั้งสองกรณีให้วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการตรวจด้วยการตรวจหากลูโคสในปัสสาวะ แต่ไม่เป็นที่นิยมเพราะสามารถผิดพลาดได้ง่าย และในการตรวจหากลูโคสในกระแสเลือด แพทย์จะคำนึงถึงยาที่จะทำให้น้ำตาลสูงขึ้นด้วย
สรุป ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน มีผลการตรวจดังนี้
- มีน้ำตาลอดอาหารอยู่ระหว่าง 100-125 mg/dl
- มีค่าน้ำตาลหลังจากดื่มน้ำตาล 75 กรัม ที่ 2 ชม.อยู่ระหว่าง 140-199 mg/dl
- มีค่าน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 5.7-6.4 %
แม้ว่าจะเป็นผลการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสิ่งที่เราอาจจะไม่มีความรู้ แต่สิ่งที่เราสามารถป้องกันตนเองจากโรคเบาหวานได้ คือการดูแลตนเองอย่างดี หลีกเลี่ยงปัจจัยของโรค ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก และลดปริมาณแป้ง น้ำตาล และไขมัน ก็จะทำให้เราห่างไกลโรคเบาหวานได้
โรคกระดูกพรุน ภัยเงียบในผู้สูงอายุที่ป้องกันได้ โรคกระดูกพรุน
หัวใจ เป็นอวัยวะสำคัญที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายประมาณ 5 ลิตรต่อนาที ทำงานอย่างต่อเนื่องผ่านระบบไฟฟ้
การฉายรังสีรักษา หรือฉายแสง เป็นการรักษาโรคมะเร็งวิธีการหนึ่ง ซึ่งการฉายรังสีรักษ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมลง และเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมา ปัจจัยหนึ่งที่คุณสามารถควบคุมได