ต้อหิน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ต้อหินเฉียบพลัน และต้อหินเรื้อรัง ต้อหินเรื้อรังเป็นต้อที่ร้ายแรงที่สุด เป็นสาเหตุทำให้คนตาบอดเป็น 5 อันดับแรก
การรักษาต้อหินเป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้อชนิดนี้เกือบไม่มีอาการผิดปกติใด เพราะสายตาจะมัวลงอย่างช้าๆ จนบอดในที่สุด โดยไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ
สาเหตุของโรค
สาเหตุการเกิดมีทั้งทราบสาเหตุและไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค มีดังนี้
- ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- มีโรคเรื้อรังทางร่างกาย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
- มีประวัติการใช้ยาหยอดตา หรือทานยาบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มฮอร์โมนสเตอร์รอยด์
- มีประวัติการได้รับอุบัติเหตุบริเวณตา
- มีประวัติการผ่าตัดทางตา หรือรักษาโรคทางตา
- ผู้ที่สายตาสั้นมาก
การรักษาโรค
การรักษานั้น มีด้วยกัน 3 วิธี คือ การให้ยาหยอดตาและยาทาน การใช้แสงเลเซอร์ และการผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่การรักษาเหล่านี้ เป็นเพียงการรักษาสภาพเท่านั้น ไม่ได้ทำให้มองเห็นได้ดีขึ้น แต่หากไม่รักษาก็จะบอดไปในที่สุด
การดูแลตนเอง
ในการดูแลตนเอง หากคุณเป็นต้อหินเรื้อรังนั้น คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหมั่นพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจดูทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันแต่เนิ่นๆ การรักษาได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้คุณมีสายตาใกล้เคียงคนปกติไปตลอดชีวิตได้
หากคุณเป็นต้อหินเรื้อรัง ควรดูแลตนเอง และพบแพทย์ตามนัดเสมอ เพื่อรักษาดวงตาของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่หากคุณยังไม่ได้เป็น ก็ควรดูแลดวงตา และควบคุมเรื่องอาหารการกินให้ดี แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่การดูแลตนเองเป็นอย่างดี ก็เป็นเกราะป้องกันคุณจากโรคต่างๆ ได้อย่างแน่นอน
โรคตา เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้ในผู้สูงอายุทุกคน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และโรคที่เกิดขึ้นก
ในวัยสูงอายุ เป็นวัยที่มักจะคิดมาก และมีความกังวลใจในทุกเรื่อง นั่นเพราะสุขภาพร่างกา
“คนเรากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่เตือนใจเราได้เป็นอย
สิ่งที่ดีต่อสุขภาพของคนเรา ไม่ว่าจะเพศใด หรืออายุเท่าใดนั้น คือการทานอาหารให้ครบ 5 หมู
ผู้สูงอายุ มักมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคไต โรคปอด เป็นต้น ซึ่งโรคเหล
ในวัยสูงอายุนั้น การกินอาหารมักด้อยประสิทธิภาพลง เนื่องจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่