อาการเจ็บหน้าอก เกิดจากเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ซึ่งพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย สาเหตุสำคัญของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด คือ หลอดเลือดหัวใจตีบจากการเสื่อสภาพเนื่องจากภาวะสูงอายุ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และกรรมพันธุ์ เป็นต้น
อาการของโรค
อาการที่พบได้บ่อย คือ แน่นหน้าอก ปวดตรงกลางอกเหนือลิ้นปี่ เหมือนมีอะไรกดทับหรือบีบ บางครั้งมีอาการแสบร้อน อาการดังกล่าวอาจลุกลามไปด้านหลัง คอ ไหล่ คาง หรือต้นแขน มักมีอาการอยู่ประมาณ 5 นาที
อาการปวดแน่น เจ็บหน้าอก จะทำให้รู้สึกหายใจลำบาก เหงื่อไหล อาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้พบได้ในตอนที่ต้องออกแรงมาก เครียดมาก หลังรับประทานมื้อหนัก อากาศเย็น หรือช่วงสูบบุหรี่
การดูแลตนเอง
ผู้ที่มักมีอาการหัวใจขาดเลือด ควรดูแลตนเองอย่างดี ดังนี้
- หากมีอาการควรนอนราบและให้ญาติติดต่อรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือหากมียาขยายหลอดเลือดหัวใจ ให้รีบทาน อม หรือพ่นทันที
- ระวังควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้เกิดโรคอ้วน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาทีต่อวัน
- ไม่สูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก
- รู้จักทำอารมณ์ให้แจ่มใส ห่างไกลความเครียด
- รักษาควบคุมโรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคไขมันในเลือดสูงอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของอาการหัวใจขาดเลือด
แม้ว่าจะมีวิธีป้องกัน และดูแลตนเองเป็นอย่างดี แต่ความชรา และกรรมพันธุ์ ก็ยังเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเราทุกคนจึงยังคงประสบได้อยู่ดี การลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งการทำจิตใจให้แจ่มใส เป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ เป็นการปฏิบัติตนที่ทำให้เราห่างไกลจากอาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดที่ดีที่สุด
แม้ว่าผู้สูงอายุ จะอยู่ในวัยที่ต้องได้รับการดูแลจากลูกหลาน เนื่องจากมีความจำกัดทา
เมื่อดูละคร เรามักพบเห็นว่า พ่อของพระเอก นางเอก มักเป็นโรคเนื้องอก มะเร็งในสมอง จนท
ชีวิต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราทุกๆ คน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดของชีวิต ก็ควรดูแลรักษาสุขภาพร่า
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น สภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ ที่สภาพร่างก
ในวัยสูงอายุ เรามักพบว่า มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และมีโรค
เป็นที่ทราบกันดีว่า แม้จะอยู่ในช่วงวัยสูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ก็ควรออกกำลังกายอย