ผู้สูงอายุ เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น อาจก่อให้เกิดโรค หรือการสูญเสียอวัยวะบางอย่างได้ ซึ่งเมื่อมีการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ ร่างกายอาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน
ยาไซโคลสปอริน เป็นยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย คอยป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่อาจเข้ามาทำอันตรายร่างกายได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ จำเป็นที่จะต้องได้รับยาชนิดนี้ เพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่ที่ได้รับ
สรรพคุณของยา
- ใช้กดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อป้องกันการปฏิเสธสิ่งปลูกถ่ายในผู้ป่วย
- ใช้รักษาเยื่อตาขาวอักเสบจากภาวะตาแห้ง ภาวะต่อมน้ำตามัยโบเบียนทำงานผิดปกติ
- ใช้รักษาโรคจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น ข้อรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น
เมื่อสั่งยาควรแจ้งอะไรกับแพทย์บ้าง
- แจ้งโรคประจำตัวต่างๆ ที่เป็นอยู่
- แจ้งเกี่ยวกับยาอื่นที่กำลังใช้อยู่
- แจ้งเกี่ยวกับการใช้วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร
- แจ้งหากตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
ผลข้างเคียงของยาในบางราย
- มีพิษต่อไต ระบบประสาท ทำให้สั่น ปวดศีรษะ และชัก
- ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ทำให้ใจสั่น หรือหยุดเต้น
- ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
- เหงือกบวม
การเก็บรักษายา
ควรเก็บในอุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส ในที่แห้ง พ้นแสงแดด และเก็บให้มิดชิด พ้นจากเด็กและสัตว์เลี้ยง รวมถึงไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ผู้สูงอายุที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะ ญาติควรให้ความสำคัญในการรับยาไซโคลสปอริน รวมถึงการใช้ และการเก็บรักษาด้วย เพราะช่วยให้ร่างกายของผู้สูงอายุไม่ปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะ และสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียความชุมชื้นได้ง่าย ทำให้ผิวแห้ง
หากคุณสังเกตเห็นความผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เช่น อาการอ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก มองเห็
แม้ว่าอาการอาหารเป็นพิษ จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ในวัยสูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำกว
ในผู้สูงอายุ เรามักพบปัญหาข้อเข่าเสื่อมได้บ่อยๆ เนื่องจากสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยล
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มักมีโรคภัยต่างๆ ถามหาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำ
โดยปกติแล้ว คนเราทุกคน ควรดูแลเอาใจใส่สุขภาพกาย และสุขภาพใจของตนเองเป็นอย่างดีในทุ
